Page 12 - Merck

การใชผงสีมุกในงานพิมพ์นั้นง่าย เพียงผสม
ผงสีมุกลงในหมึ กพิมพ์ ของระบบพิมพ์ นั้ นๆ
เช่นเดี ยวกันกับการผสมหมึ กพิมพ์ทั่วไปก็จะได
หมึกสีมุก แลวจึงนำไปพิมพ์ งานพิมพ์ที่ตองการ
สีมุก สามารถใช้ ได้กั บงานพิมพ์ ทุ กระบบ
ไดแก่ การพิ มพ์ออฟเซ็ต การพิ มพ์ กราเวียร์
การพิมพ์สกรี น การพิมพ์เฟล็กโซกราฟ เป็ นตน
ในการพิมพ์ควรพิ จารณาขนาดของเกล็ดสีมุกที่
ใชให เหมาะสมกับระบบพิ มพ์แต่ละระบบ เช่น
ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ ตสามารถใชกั บสีมุกที่ มี
เกล็ดขนาดเล็กเท่ านั้น ส่ วนระบบการพิมพ์สกรีน
เกล็ดของสีมุกที่ ใชไดจะขึ้ นอยู่กั บความถี่ห่างของ
ช่องผาสกรีนนั้นๆ
ปริมาณของผงสีมุกในหมึกพิมพ์
การผสมสีมุกในหมึกพิมพ์มีปริมาณการผสม
ที่แตกต่างกั นในแต่ละชนิดของหมึ กพิมพ์ดังนี้
ชนิดของหมึกพิมพ์ ต่อปริมาณผงสี มุก เป็น
เปอร์เซ็นต์
หมึกพิมพ์สกรีน 5 - 20 %
หมึกพิมพ์กราเวียร์ 10 - 20 %
หมึกพิมพ์ออฟเซ็ต 20 - 30 %
ข อแนะนำ ในการผสมหมึกพิมพ์ ควรนำผง
สี มุกไปแช่ ในตัวทำละลาย หรื อตัวยึดเกาะ
สำหรั บผลิตหมึก (Ink Binder) และทิ้งไว ในระยะ
เวลาหนึ่งก่ อนลงมือผสมหมึ ก เพื่อใหเกล็ ดมุก
เกิดการกระจายตัวไดดีในกระบวนการผลิต
ตัวอย่ างงานพิ มพ์ โดยใช ผงสีมุ ก ได แก่
งานพิมพ์ หีบห่ อบรรจุ ภัณฑ์สิ นค า งานพิมพ์
กระดาษทั่ วไป วอลล์เปเปอร์ และงานตกแต่ง
ภายในทั่ วไป งานพิมพ์ผ า เช่น ชุ ดเครื่องนอน
ผ าม่ าน งานพิมพ์ บนแผ่นฟิล์ ม หรือพลาสติ ก
งานพิมพ์ ฉลากสินค า งานพิมพ์ บนแกวหรื อ
เซรามิก เป็นต น
เทคนิคการพิมพ์ด้วยผงสีมุก
1. การพิมพ์มุกเฉพาะจุด (Spot Printing)
Pearlprint Litho ซึ่งเป็น ผงสีมุกชนิดพิเศษที่
ไดผลิตเพื่อใชสำหรับหมึกพิมพ์ในระบบออฟเซต
โดยเฉพาะเพื่ อใหเกิ ดประสิ ทธิภาพสู งสุด
และอำนวยความสะดวกในการใชงานในระบบ
ออฟเซ็ตมากยิ่งขึ้น ประเภทของผงสีมุก Pearlprint
Litho ไดแก่ Pearl-White, Gold, Bronze,
Interference การพิมพ์สีพิเศษ หากเลือกใชสี มุก
ในกลุ่มสี เหลือบ ผลที่ไดจะเกิดการเหลื อบสีของ
สี มุกนั้นๆ เมื่อทำมุมกับแสง และจะสามารถเห็น
การเหลือบสี ได้ชัดขึ้น เมื่อพิมพ์ทับบนสีเข้ม
เช่ น สีดำ เป็นต น
ขอสังเกตคือ เทคนิคนี้จะทำให สีที่ถูกพิมพ์ทับนั้น
เปลี่ยนไปมีความงดงามในอีกรูปแบบหนึ่ง
2. การพิมพ์รองพื้นด้วยวานิชมุก
สามารถทำไดโดยการผสมสีมุกกับน้ำยาวานิช
แลวอาบลงบนพื้นผิวกระดาษใหทั่ว ในอัตราส่วน
ของสีมุก 15-20% โดยน้ำหนั ก จากนั้น จึงค่อย
พิมพ์ ทับดวยหมึกพิมพ์ ออฟเซ็ตตามปกติ โดยสี
ที่ใชพิมพ์ควรเป็นสีโปร่ง
ผลที่ได จากเทคนิ คนี้ จะทำใหงานพิ มพ์ มี
ความสวยงามแวววาว
3. การพิมพ์เคลือบทับด้ วยสีมุ ก
สามารถทำไดโดยการพิมพ์ดวยระบบออฟเซ็ต
ตามปกติในชั้ นแรก จากนั้นใหพิมพ์ทับงานพิ มพ์
นั้นๆ ดวยสี มุกในขั้ นตอนสุดทายในอัตราส่ วน
ของสีมุก 15-20% โดยน้ ำหนัก
ผลที่ได จะแลดูคลายมีฟิล์ มบางๆ ที่มีประกาย
มุกเคลือบอยู่ บนงานพิมพ์ เทคนิคนี้จะทำใหสี ที่
ถูกสีมุกพิมพ์เคลือบทับนั้นเปลี่ยนไปเล็กน อยแต่
มีประกายสีมุกที่โดดเด่นออกมา
ผงสีมุกในอุตสาหกรรมการพิมพ
12