Page 23 - E-Waste
P. 23
C 1 2 3 4 5 6
19
โรงงาน พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2548
ู
ผ้ประกอบการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยยังไม่มีมาตรการหรือนโยบายการเรียกคืนสินค้าท ี ่
เป็นซากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากไม่มีการกำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติต่างๆ ซึ่งต้องมีการกำาหนดให้ผู้ผลิต
มีส่วนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการ การรีไซเคิล หรือการกำาจัดซากอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ โดยอาจจะมีการผลักดัน
ำ
ร่างกฎหมายจากกฎหมายเดิมให้ครอบคลุม โดยเร่มปรับปรุงจากการควบคุมและบังคับโรงงานให้ทาตามกฎหมาย
ิ
ในการปล่อยสารมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อมมาเป็นการใช้หลัก “ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย” เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของ
ิ
ผ้ประกอบการโรงงานให้มีความรับผิดชอบต่อการจัดการส่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ และสามารถลดมลพิษจากแหล่ง
ู
กำาเนิดมากขึ้น
ิ
ศูนย์วิศวกรรมพลังงานและส่งแวดล้อม (2551) ศึกษาวงจรชีวิตของซากอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส ์
พบว่า สถานประกอบการที่มีการรับซื้อซากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่มีการใช้เทคโนโลยีในการรีไซเคิล
ิ
ื
ใช้เพียงการถอดแยกช้นส่วนและองค์ประกอบด้วยเคร่องมืออย่างง่ายและแรงงานคน มีเพียงสถานประกอบการ
บางแห่ง เช่น บจก.วงษ์พาณิชย์ ที่มีเครื่องจักรในการบดย่อยพลาสติก และ บจก.ยูนิคอปเปอร์เทรด ที่มีการนำาเอา
แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์มาแยกโลหะมีค่าออกมา เป็นต้น
ิ
ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติด้านการจัดการส่งแวดล้อมและของเสียอันตราย (2553) ศึกษาการจัดการซาก
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย พบว่ายังไม่ก้าวหน้ามากนัก คืออยู่ในระดับของการสกัดแยกโลหะ
ี
ู
ิ
ั
ิ
์
ิ
้
มค่าออกจากซากอิเล็กทรอนิกส และมระบบควบคุมการเกดมลพษโดยผประกอบการชาวไทย ดวยวธีการและข้นตอน
้
ี
การสกัดแยก รวมถึงเทคโนโลยีการบำาบัดสารอันตรายของซากอิเล็กทรอนิกส์ที่แตกต่างกัน มีการลงทุนที่ไม่มากนัก
และส่วนใหญ่ยังไม่มีกระบวนการจัดการอย่างเต็มรูปแบบ จึงอาจเกิดการปนเปื้อนของสารอันตรายหรือแพร่กระจาย
ู
ิ
ู
ส่ส่งแวดล้อมได้ ท้งน้การจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้เงินลงทุนสูง ประกอบกับผ้ประกอบการท่มีศักยภาพใน
ี
ั
ี
การรีไซเคิลน้นเป็นชาวต่างชาติ และยังไม่มีการเข้ามาดาเนินการด้านการรีไซเคิลในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ ซ่ง
ึ
ำ
ั
อาจเป็นเพราะข้อกำาหนดและกฎหมายบางฉบับของไทย รวมถึงการยอมรับการจัดการซากจากภาคประชาชน ทำาให้
ไม่คุ้มค่าการลงทุน
ี
นอกจากน้ยังพบอีกว่า หากภาครัฐมีการผลักดันให้เกิดกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับในการจัดเก็บและ
ี
รวบรวมซากอิเล็กทรอนิกส์ท่มีประสิทธิภาพ สามารถทาให้ผ้ประกอบการมีความเช่อม่นในศักยภาพของปริมาณซาก
ั
ำ
ู
ื
อิเล็กทรอนิกส์ที่จะเข้าส่โรงงาน รวมถึงดาเนินการส่งเสริมกล่มธุรกิจการรีไซเคิลอย่างจริงจัง ก็จะทาให้เกิดการพัฒนา
ุ
ำ
ำ
ู
ของระบบและกระบวนการรีไซเคิลที่ดีและมีประสิทธิภาพได้