Page 20 - สวทช. คิดค้นชุมขนเข้มแข็ง

จิบชาร้อน “ชาต้ นอ่อนข้าวสาลี”
บ่ายคล้อยเต็มที เราเดินหลบ
แสงอาทิตย์ มาบริเวณหน้ าหมู่บ้ าน
ที่มีโรงเรื อนหลังเล็กๆ ชั้นเดียวสี ขาว
ภายนอกดูเงียบเหงา เมื่อเข้าไปกลั บ
สัมผัสถึงบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและ
ผ่อนคลาย อาจเพราะกลิ่ นหอมอบอวล
ของใบชาที่ คละเคล้าไปด้วยรอยยิ้ ม
และเสี ยงหั วเราะของบรรดาสาวๆ
ที่ กำ�ลังช่ วยกั นนำ �ใบชาใส่ซองเล็กๆ
ก่อนหันมายิ้มทั กทายอย่างเป็นกันเอง
“ยิ นดีต้อนรั บสู่ โรงชาต้นอ่อน
ข้าวสาลีผาคับเจ้า”
“นั่งก่อนๆ” หญิงสาวคนหนึ่งส่ง
เสี ยงเชื้อเชิญให้เรานั่ง จากนั้นจึ งหันไป
ชงชาต้ นอ่อนข้ าวสาลีร้อนๆ มาเสิร์ฟ
ให้ดับกระหาย ไอร้อนที่ค่อยๆ ระเหย
จากน้ำ �ชาสีเขียวอ่อนผสมเหลืองนวล
ส่งกลิ่นหอมจนอดไม่ได้ที่จะลิ้มลอง ชา
อุ่นๆ กลิ่นหอมละมุนช่วยผ่อนคลาย
ความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้อย่างดี
วิศรา บอกว่า ด้วยข้อจำ�กัดของ
สภาพพื้ นที่ที่เป็นภูเขา ทำ �ให้พื้นที่ทำ�
นามีน้ อยไม่เพียงพอกั บชาวบ้านทุก
ครั วเรือน เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน
ที่ไม่มีพื้ นที่ปลูกข้าวสาลี ไบโอเทคและ
คณะวิ จัยจาก มทร.ล้ านนา จึงนำ �
เทคโนโลยี การแปรรู ปชามาเปลี่ ยน
เมล็ดข้าวสาลีสู่ผลิตภัณฑ์ “ชาต้ นอ่อน
ข้าวสาลี”
เริ่มแรกคณะนักวิจัยนำ�ที มโดย
อาจารย์ปัทมา เข้ามาสอนวิธีแปรรูปชา
ต้ นอ่อนข้ าวสาลีให้ชาวบ้าน เมื่อชาว
บ้านทำ�ได้ จึงแนะนำ �ให้คนที่สนใจมา
ลงชื่ อเพื่อรวมกลุ่มกั นทำ�ในนาม “กลุ่ม
กิจกรรมแปรรู ปข้ าวสาลี” ในช่วง
เริ่มต้นมี สมาชิกเพียง 6 คน มี ศรีจันทร์
กุลาฝน หรือ แม่ยอด เป็นประธาน
กลุ่มกิจกรรมแปรรูปข้าวสาลี
แม่ยอด เล่าว่า สมัยก่ อนไม่มี
โรงเรือนอย่ างที่เห็นทุกวั นนี้ อาศัยทำ�
กั นที่บ้าน เงิ นทุนเริ่มต้ นยืมจากกลุ่ม
ข้าวสาลี 10,000 บาท ใช้ซื้ออุปกรณ์
พวกเตาแก๊ ส กระทะ มาทดลองทำ�กัน
ส่ วนเมล็ดพันธุ์ข้าวสาลีทางโครงการ
ปลู กข้าวสาลี ของไบโอเทคสนับสนุ น
รวมทั้งเกษตรอำ�เภอเข้ามาช่วยดูแล
ขั้นตอนการทำ� แม่ยอดบอกว่า
เริ่มจากเพาะต้นกล้าข้าวสาลีก่อน เมื่อ
ต้ นอ่อนมีอายุ 10-12 วัน ตั ดออกมา
เลื อกใบที่ สมบูรณ์ ล้ างน้ำ�ให้ สะอาด
พั กให้สะเด็ดน้ำ� หั่นใบชาให้มีความยาว
ประมาณ 1-2 เซนติ เมตร นำ�ไปนวดใน
กระทะด้วยมือ ใช้ไฟอ่อนๆ จนแห้ง ผึ่ง
ให้ เย็นแล้วบรรจุในภาชนะทึบแสงทันที
“เทคนิคอยู่ที่การนวด ต้องใช้มือ
นวดบนกระทะ ตั้งความร้อนให้พอดีๆ
นวดแต่ ละครั้งต้องสองคนช่วยกันนวด
ไปเรื่ อยๆ จนกว่าจะแห้งกรอบ กระทะ
หนึ่งใช้เวลานวดเกือบครึ่งวัน ที่สำ�คัญ
เวลาตั ดต้นอ่อนชามาแล้วต้องนวดให้
เสร็ จภายในวันนั้นเลย เพราะเดี๋ ยว
คุ ณค่าทางอาหารหายไป” วราภรณ์
เขื่อนเมือง หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเล่าเสริม
ด้วยความมุ่งมั่นและไม่ ย่อท้อ
ของชาวบ้าน หลายหน่วยงานจึงเข้ามา
ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน โดย
หน่ วยทหารพัฒนาเคลื่ อนที่ จังหวัด
น่าน หรือ นพค.31 มอบทุนสนับสนุน
การก่อสร้างโรงเรือนชาข้าวสาลีจำ�นวน
450,000 บาท
“ตอนนี้มีโรงชาแล้ว มีเตาอบชา
ด้วย” นางจันทร์ ลำ�นั ย หรือ แม่ ศรี
เอ่ยขึ้น ก่อนเอื้อมมือไปหยิบถุงชาซอง
เล็กๆ ในตู้เก็บชาสีขาวที่ตั้งอยู่ด้ านข้าง
ของห้องยื่นให้ ดูเป็นตัวอย่าง
“หอมมั้ย ชานี้เป็นผลิตภัณฑ์ตัว
ใหม่ ที่พวกเราลองทำ�ขึ้น จากเดิ มที่มี
แต่ใบชา ครั้ งนี้เรานำ�เมล็ดข้าวสาลีมา
คั่วและบดใส่ ลงไปด้วย เวลาชงหอม
มาก” แม่ศรีกล่าวอย่ างภาคภูมิใจ
20